พิษร้ายของสุราต่อระบบสมอง
ปัจจุบันมีคนเป็นจำนวนมากที่ติดสุราทั้งๆที่รู้ว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วจะเข้าไปทำลายระบบและอวัยวะต่างๆภายในร่างกายเหล้าไม่ได้มีส่วน
ไปกระตุ้นร่างกายหรือสมองแต่ตรงกันข้าม
เหล้าจะไปกดประสาทและสมองส่วนต่างๆซึ่งแบ่งออกได้ 4 ระยะ คือ
ระยะแรก
เหล้าจะไปกดสมองส่วนที่ควบคุมความคิด ทำให้ผู้ดื่มติดเหล้า ด้วยฤทธิ์อันนี้ทำให้ขาดสติไม่มีความยั้งคิด
อาจไปก่อเรื่องหรือก่อเหตุร้ายแรง ระยะนี้จะเกิดเมื่อความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดสูงประมาณ
30-50 มิลลิกรัมต่อเลือด100 ซีซี หรือดื่มเบียร์ประมาณ 1-2 ขวดใหญ่
ระยะที่สอง
ในช่วงนี้เหล้าจะกดสมองมากขึ้น สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและการพูดคุยก็จะถูกกดไปด้วย
ผู้ที่ดื่มเหล้าจึงมีอาการพูดไม่ชัด เดินโซเซ ประสาทการรับรู้ช้ากว่าปกติ
จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเพราะแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงไม่ทัน ระยะนี้จะมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดประมาณ
100 มิลลิกรัม ต่อเลือด 100ซีซี หรือดื่มเบียร์ประมาณ 4-6 ขวด
ระยะที่สาม
สมองจะถูกกดมากจนถึงขนาดเกือบช่วยตัวเองไม่ได้ลุกขึ้นยืนเองไม่ได้ นั่งตรงๆก็ไม่ได้
ในที่สุดต้องฟุบหรือนอนราบไปช่วงนี้จะมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดสูงประมาณ
200 มิลลิกรัมต่อเลือด 100ซีซี
ระยะที่สี่
สมองที่สำคัญสำหรับการมีชีวิตอยู่เริ่มถูกกดจะเกิดอาการไม่ค่อยรู้สึกตัวในที่สุดจะหมดสติ
และไม่รู้สึกตัว โดยสมบูรณ์
ของสมองส่วนที่ควบคุมหัวใจทำให้หายใจไม่สะดวกอาจถึงขั้นหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นถึงแก่ความตาย
ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในระยะนี้สูงถึง 400-500 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 ซีซี
การดื่มสุราทำให้เกิดโทษต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต เสียบุคลิกเสียทรัพย์
ฉะนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีไม่ควรดื่มสุรา
NEXT
: BACK